อย่างที่เคยเกริ่นไปก่อนหน้านี้ปีที่แล้วจนมาถึงปีนี้ เรียกได้ว่าเป็นช่วงแห่งความยากลำบาก แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นปีแห่งการเริ่มต้น โอกาสในการทำธุรกิจของตนเองได้เช่นกัน การสร้าง Personal Brand เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งสำหรับคนเริ่มขายของ หรือทำธุรกิจเช่นกัน สิ่งที่เรียนรู้วันนี้เราพบว่าสินค้าเหมือนๆกันมีมากมายในท้องตลาด ดังนั้นธุรกิจวันนี้นอกจากผู้คนจะซื้อสินค้า แต่พบว่า “คนไม่ซื้อสินค้าและบริการ พวกเขาซื้อความสัมพันธ์เรื่องราวและเวทมนตร์” People do not buy goods and services. They buy relations, stories and magic. – Seth Godin
นอกเหนือจากการสร้างแบรนด์ทั่วไป นั่นคือการทำตัวตนที่เป็นตัวเองให้คนรู้จัก โดยการ ”ไลฟ์” ตามค่านิยมวันนี้กัน ก็มีที่ทำสำเร็จ ไม่สำเร็จ ล้มหายตายจาก ไร้ตัวตนกันไปก็มาก เพราะเราไม่รู้จักสร้าง “Personal Brand” เราชอบแค่ทำตามกันไป
อย่างที่รู้ปีที่แล้วเป็นปีแห่งความเลวร้ายสิ่งที่ไม่ควรเกิดได้เกิดขึ้นมากมาย
7 แนวโน้ม Personal Branding 2021 ที่น่าสนใจ ลองมาดูว่าข้อไหนที่สามารถนำไปปรับปรุง Personal Brand ให้แข็งแรง และมีระบบมากยิ่งขึ้น
1 รูปแบบธุรกิจเป็นศูนย์กลางของ Personal Brand ของเรา The business model as the epicenter of our Personal Brand
เจ้าของแบรนด์วันนี้ก็ต้องเหมือนช่างตัดเสื้อที่ต้องตัดเสื้อให้ตัวเองเพื่อให้เสื้อพอดีตัวเรา ก็เหมือนที่เราต้องทำให้กับ “Personal Brand” ของเราเอง
โดยปกติแล้วรูปแบบธุรกิจมักจะถูกกำหนดอย่างชัดเจน แต่กับตัวเราเองที่จะทำเป็น “Personal Brand” ที่มักจะไม่ชัดเจน หรือไม่สอดคล้องกับธุรกิจของตัวเอง ดังนั้นอย่าลืมอัพเดตโปรไฟล์ให้ทันสมัย ทันเหตุการณ์ และสอดคล้อง (สนับสนุน) กับธุรกิจของคุณ
2. สร้างส่วนร่วมวันนี้ เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ ในที่สุดก็สามารถเกี่ยวข้องกันในระยะยาวได้ Greater relevance, contribute to import and build long-term relationships
วันนี้สิ่งที่ต้องค้นหาคือ “ความเกี่ยวข้อง – การมีส่วนร่วม” ซึ่งกลายเป็นคุณค่าหนึ่ง โดยเฉพาะกับการสร้าง “Personal Brand”
เพราะการมีส่วนร่วม ก็เหมือนการเพิ่มคุณค่าของตัวเองให้กับผู้อื่นที่รับรู้ และการส่งมอบก็จะสามารถสร้างความสัมพันธ์ได้ สุดท้ายจะกลายเป็นความเกี่ยวข้องที่คุ้นเคย จนกลุ่มผู้คนที่รับรู้มีความสัมพันธ์ที่มั่นคงขึ้นกับ ”Personal Brand” ของเรา
3. ต้องการประสบการณ์มากขึ้น โดยใช้คำน้อยลง More experiences, fewer words
หากปีที่แล้วจะชี้ไปที่ “ข้อเท็จจริงถูกกำหนดไว้ในคำพูด” แต่ปีนี้ต้องเพิ่ม “ประสบการณ์” เข้าไป และกลายเป็นว่า การสาธิต การเล่าเรื่องด้วยวิดีโอ ตือการเล่าประสบการณ์ที่ดีกว่าแค่คำพูด
4. ความเชี่ยวชาญที่เพิ่มขึ้นโดยต้องไม่มองข้ามความรู้ในโลกนี้ Increased specialization, without losing sight of global knowledge
การยอมรับความรู้ ความคิดเห็นเฉพาะทางจากผู้เชี่ยวชาญจริง เพื่อให้ Personal Brand มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เหมือนกับคำว่า “รองเท้าที่ดี จะทำมาจากช่างรองเท้าผู้เชี่ยวชาญ” อย่างไรก็ตามการใช้ผู้เชี่ยวชาญต้องระวังการที่จะสูญเสีย DNA ของคุณในฐานะ “หนึ่งในคนที่รู้เรื่องนี้มากที่สุด”
5. คิดให้เป็นภาพ Visual Thinking
มาทำให้ง่ายต่อการเข้าใจแนวคิดด้วยภาพ และฉันไม่ได้แค่พูดถึงอินโฟกราฟิก แต่องค์ประกอบภาพเล็ก ๆ ที่ช่วยเราในการตัดสินใจ
6. ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น แต่ยังไงก็ตามการบริการก็ยังสำคัญ เพราะเรายังต้องการการบริการแบบมนุษย์ More technology, but always at our service, to human service
อย่ากลัวเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีช่วยให้เราได้ใช้ทรัพยากรที่หายากที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิตนั่นคือ เวลา
อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ในรูปแบบมนุษย์ถึงมนุษย์ยังสำคัญอยู่ โดยเฉพาะการบริการที่ให้ความรู้สึกแบบมนุษย์
7. ความยั่งยืนทางดิจิทัล Digital Sustainability
จากสถานการณ์การระบาดของโควิด กิจกรรมทางดิจิทัลเรียกว่าก้าวกระโดด และเหมือนการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ในการติดต่อ รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์กับโลก และในวันนี้จะพบกิจกรรมดิจิทัลเกิดขึ้นมากมายและมีผู้คนอยากเข้าร่วมกิจกรรมเหล่านี้ ถึงแม้วันนี้จะไม่ได้เข้าร่วมก็สามารถย้อนกลับไปดู หรือเข้าไปมีส่วนร่วมทีหลังได้
อีกเรื่องที่ต้องสนใจในการทำ Personal Brand คือเรื่อง เทรนด์การถ่ายภาพสำหรับที่จะใช้ในการสื่อสาร Personal Brand
เพราะการสร้าง Personal Brand เป็นเหมือนแฟชั่น โดยจะต้องผ่านวัฏจักรของสิ่งต่าง ๆ ที่“ อินเทรนด์” และช่วงเวลาที่เราต้องพึ่งพาภาพถ่ายที่ผ่านการเลือกสรรเพื่อ ทดลองและทดสอบ
ดูสะดวกสบายและอบอุ่น Comfy & Cosy
ความจริงที่ว่าพวกเราส่วนใหญ่ชอบเสื้อผ้าที่ใส่สบาย (กางเกงโยคะจ็อกเกอร์และจัมเปอร์สบาย ๆ ) Personal Brand เลือกที่จะแสดงตัวเองในสภาพที่ผ่อนคลายมากขึ้นเช่นกัน
แสดงออกถึงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง The Great Outdoors
การสื่อถึงบรรยากาศที่ดี ฟ้าสวย สถานที่น่าสนใจ แสดงออกถึงช่วงเวลาที่ดี ใช้ประโยชน์จากบรรยากาศเหล่านี้ ทำให้กลุ่มเป้าหมายสนใจ
ท่าทาง / การแสดงออกที่ส่งออกมากขึ้น More outgoing poses/expressions
การแสดงออกทางอารมณ์ที่มากขึ้น ท่าทางการแสดงออกที่มากขึ้น ก็เป็นอีกแนวโน้มที่ดีโดยที่ต้องดูเนื้อหาที่ต้องการสื่อที่เฉพาะเจาะจง เพราะง่ายต่อการสื่อสารมากยิ่งขึ้น
เสื้อยืดยังอยู่ Branded t-shirts
เสื้อยืดที่มีลวดลายเขียนอยู่ เป็นการสื่อสารที่ยังน่าสนใจ โดนเฉพาะถ้ามีการเลือกสรรอย่างมีสไตล์ และสร้างสรรค์
ภาพถ่ายก็เป็นอีกอย่างหนึ่งในการที่จะสร้างสรรค์ Personal Brand ให้เป็นที่น่าสนใจ รวมทั้งทำให้เห็นตัวตนของ Personal Brand ได้อย่างชัดเจน และง่ายต่อการจดจำมากยิ่งขึ้น
THE BOTTOM LINE :
เทรนด์การทำ Personal Brand วันนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลง หรือมีการทำให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ตามยุคตามสมัย และ Generation ของคนที่จะต้องการสื่อ แต่ไม่ว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไรก็ตามเรื่องที่ไม่เปลี่ยนแปลงและเป็นเรื่องพื้นฐาน คือ “คุณดูเป็นอย่างไร + คุณพูดอย่างไร + คุณแสดงออกอย่างไร = แบรนด์ส่วนตัวของคุณ” How you look + How you speak + How you act = Your Personal Brand – Anonymous
และวันนี้ยังมีอีกเรื่องนึงที่พบว่า “ผู้คนเชื่อมต่อกับผู้คนไม่ใช่กับแบรนด์ แบรนด์คือเรื่องราว ผู้คนคือทุกสิ่งทุกอย่าง” People connect with people, not with brands. Brands are fiction, people are everything. ดังนั้นการสร้าง Personal Brand วันนี้สามารถทำให้ “ธุรกิจ” ของคุณเป็นที่เข้าถึง กับผู้คนได้มากยิ่งขึ้น
ต้องการคำปรึกษา หรือมีคำถาม ติดต่อที่ Comment, Messenger หรือ E-mail : 527may27@gmail.com ได้เลยนะคะ
#527 #brandnode #marketing #research #SME #brand #branding #consultant #knowledge #rebrand #marketing #consumerinsight #แบรนด์ #วิจัย #การตลาด #การสร้างธุรกิจ
Story Cr. : guillemrecolons.com
BrandMirror