“Segmentation” ถ้าจะตอบว่าคืออะไร ก็คือการจัดระเบียบกลุ่มคนที่มีความหลากหลายอยู่ตรงหน้าให้เป็นกลุ่มๆ ด้วยเกณฑ์ความเหมือนอะไรบางอย่าง เพื่อให้เรารู้ว่าคนที่น่าจะอยากซื้อของเราคือกลุ่มไหน ดังนั้นเกณฑ์ที่ใช้ควรจะต้องเป็นเกณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องหรือมีประโยชน์กับสินค้าเรา
ดังนั้น “ใช้เวลาในการแบ่งกลุ่ม และหากคุณสามารถระบุลูกค้าที่ดีที่สุด และแย่ที่สุดได้ มันก็คุ้มค่ากับเวลา”
Take sometimes to play around with segmentation. If you can pinpoint your best and worst customers it’s well worth the time. – Des MacHale –
ความสำคัญของการแบ่งส่วนตลาด เพราะ “การแบ่งส่วนตลาดสามารถช่วยให้คุณกำหนดและเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและลูกค้าในอุดมคติของคุณได้ดีขึ้น”
FROm : Market segmentation can help you to define and better understand your target audiences and ideal customers หากคุณเป็นคนขาย “Segmentation”
จะช่วยให้คุณระบุตลาดที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ของเราได้ จากนั้นกำหนดเป้าหมายทางการตลาดของเราได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในทำนองเดียวกันเวลาที่เราต้องการสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมาย สามารถใช้ลักษณะ ของ “Segmentation” เพื่อเสนอเลือกการสื่อสารที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นและเพื่อปรับแต่งเนื้อหาสำหรับกลุ่มผู้เป้าหมายได้ตรงขึ้น
“การแบ่งส่วนตลาดช่วยให้คุณระบุตลาดที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ”
Market segmentation allows you to identify the right market for your products.
การแบ่งส่วนตลาดช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายเนื้อหาของคุณไปยังผู้คนที่เหมาะสมได้อย่างถูกต้องแทนที่จะกำหนดเป้าหมายผู้ชมทั้งหมดด้วยข้อความทั่วไป วิธีนี้ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้คนมีส่วนร่วมกับโฆษณาหรือเนื้อหาของคุณส่งผลให้แคมเปญมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)
มารู้จักกับเกณฑ์เบื้องต้นในการแบ่งกลุ่ม
เพราะ การกำหนดเป้าหมายไปยังตลาดที่เหมาะสมด้วยข้อความที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ – หากคุณตั้งเป้าไว้กว้างเกินไปข้อความของคุณอาจเข้าถึงผู้คนไม่กี่คนที่กลายมาเป็นลูกค้า แต่คุณจะเข้าถึง ผู้คนจำนวนมากที่ไม่สนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ เมื่อข้อความของคุณไม่ได้รับการปรับให้เหมาะกับผู้ชมของคุณ คุณจะต้องเสียเงินค่าโฆษณาจำนวนมากไป
ดังนั้นการแบ่งส่วนตลาดสามารถช่วยให้คุณกำหนดเป้าหมายเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มที่จะเป็นลูกค้าที่พึงพอใจของคุณหรือผู้บริโภคที่กระตือรือร้นในเนื้อหาของคุณ ในการแบ่งกลุ่มตลาดคุณแบ่งตลาดออกเป็นกลุ่มที่มีลักษณะคล้ายกัน
1. Geographic Segmentation – การแบ่งกลุ่มเป้าหมายด้านภูมิศาสตร์ คือการศึกษาลูกค้าโดยพิจารณาจากสถานที่ตั้งทางกายภาพของพวกเขา ซึ่งจะส่งผลต่อการโต้ตอบทางกายภาพในตลาดมากขึ้น
FROm :
Geographic is the study of your customer based on their physical location, which can effect more physical interactions in the market.
เป็นวิธีการแบ่งกลุ่มลูกค้าที่น่าจะเข้าใจง่ายที่สุด โดยเฉพาะในสมัยก่อนที่ข้อมูลยังไม่สามารถเข้าถึงทุกคนได้อย่างในยุคอินเตอร์เน็ตทุกวันนี้ ผู้บริโภคที่รวมกลุ่มกันในสถานที่ใกล้เคียงกันอาจมีความชอบที่คล้ายคลึงกัน หรือมีพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตในรูปแบบนามธรรมที่คล้ายคลึงกัน เช่น การเลือกที่จะลงโฆษณาติดป้ายใหญ่ๆประจำพื้นที่ การจัดกิจกรรมพวกงานแฟร์ เป็นต้น เคยมีคำกล่าวที่ว่า “ความชอบของลูกค้าเปลี่ยนไปตามสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์” Customer preferences change based on Geographic location. – Buzzle.com –
ตัวอย่างตัวแปรในการแบ่งส่วนทางภูมิศาสตร์ :
เมือง สถานะ ประเทศ ความหนาแน่นของประชากร
สถานะทางเศรษฐกิจ รหัสไปรษณีย์ ภูมิอากาศในภูมิภาค
อย่างไรก็ตามการแบ่งส่วนทางภูมิศาสตร์อาจรวมถึงพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่ไม่ได้กำหนดไว้ในทางเทคนิค ซึ่งอาจจะเหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่สามารถกำหนดขอบเขตให้ชัดเจน เช่น ย่านใกล้เคียง ในหมู่บ้าน การแบ่งตลาดตามสถานที่ตั้งจะเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังผู้คนในพื้นที่เฉพาะ
เป็นกลยุทธ์การแบ่งกลุ่มขั้นพื้นฐาน แต่มีประโยชน์อย่างมาก สถานที่ตั้งของลูกค้าสามารถช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้นและช่วยให้คุณสามารถส่งโฆษณาเฉพาะสถานที่ตั้งได้
นอกจากนี้ยังมีประโยชน์หากคุณกำหนดเป้าหมายเป็นพื้นที่กว้างขึ้น ชคุณสามารถปรับแต่งข้อความของคุณตามความต่างของภูมิภาคใน เรื่องของภาษา ความสนใจ บรรทัดฐาน และคุณลักษณะอื่น ๆ รวมทั้งความต้องการที่แตกต่างกันของผู้คนในภูมิภาคต่างๆ คุณอาจต้องเปลี่ยนภาษาในการส่งข้อความขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่คุณกำหนดเป้าหมาย รวมทั้ง พรีเซนเตอร์ที่ใช้ในแต่ละท้องที่ก็มีผลต่างกัน
2. Demographic Segmentation – การแบ่งกลุ่มตามข้อมูลประชากร หมายถึงการแบ่งกลุ่มโดยพิจารณาจากความแตกต่างที่สังเกตได้ เป็นคุณสมบัติพื้นฐานในการจัดกลุ่มประชากร
FROm :
Demographic refers to splitting up audiences based on observable, people-based differences.
การแบ่งกลุ่มลูกค้าด้วยวิธีประชากรศาสตร์เป็นวิธีที่พื้นฐานที่สุด และใช้บ่อยที่สุด การแบ่งกลุ่มวิธีนี้จะช่วยให้คุณจำกัด ตลาดให้แคบลงได้มากขึ้น ข้อดีอย่างหนึ่งของการแบ่งกลุ่มประเภทนี้คือข้อมูลสามารถเข้าถึงได้ง่ายและมีต้นทุนต่ำ
มีคนกล่าวว่า “การแบ่งกลุ่มตามข้อมูลประชากรเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง ที่ใช้ในการส่งข้อความที่เกี่ยวข้องและตรงเป้าหมายไปยังผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าและลูกค้าปัจจุบัน กุญแจสำคัญสำหรับธุรกิจของ คือการระบุว่ากลุ่มใดเกี่ยวข้องกับคุณมากที่สุด และวิธีที่ดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จากการแบ่งกลุ่มโอกาสจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์”
FROm :
Demographic segmentation is an excellent way to provide relevant and targeted messaging to potential customers and existing customers alike. The key for your business is identifying which segments are most relevant to you, and how best to utilize the opportunities segmentation affords you. – yieldify.com –
ตัวอย่างตัวแปรในการแบ่งส่วนทางประชากร :
อายุ เพศ อาชีพ สถานภาพการสมรส ขนาดครอบครัว อาชีพ ระดับการศึกษา รายได้ เชื้อชาติสัญชาติ
ศาสนา สถานะความเป็นอยู่ (ถ้าเรื่องของคุณเป็นเจ้าของบ้านหรือผู้เช่า)
3. Psychographic Segmentation – การแบ่งกลุ่มทางจิตวิทยา คือการแบ่งกลุ่มลูกค้าประเภทหนึ่งที่มุ่งเน้นไปที่ความรู้สึกภายใน หรืออุปนิสัยที่อยู่ข้างใน
FROm : Psychographics are a type of customer segmentation that focus on inner or qualitative traits.
เคยทีคำกล่าวว่า “การแบ่งส่วนทางจิตกราฟิกคล้ายกับการแบ่งกลุ่มประชากร แต่เกี่ยวข้องกับลักษณะที่เกี่ยวข้องกับจิตใจและอารมณ์มากกว่า”
FROm : Psychographic segmentation is similar to demographic segmentation, but it deals with characteristics that are more mental and emotional.
ลักษณะในการกำหนดที่จะใช้แบ่งกลุ่มทางจิตวิทยา Psychographic Segmentation – จะไม่ชัดเจนเหมือนกับการแบ่งกลุ่มประชากร ต้องมีการวิเคราะห์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ด้วยการกำหนดตัวตนของลูกค้าด้วยวิธีนี้ คุณจะมีความพร้อมมากขึ้นในการปรับแต่งกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณ และคุณจะดึงดูดรสนิยมของลูกค้า
QUOTe : By defining a customer persona this way, you’ll be more equipped to tailor your marketing strategies. And, you’ll appeal to customer tastes.
ตัวอย่างตัวแปรในการแบ่งส่วนทางจิตวิทยา :
นิสัย งานอดิเรกกิจกรรมหรือความสนใจ ค่านิยมหรือความคิดเห็น
บุคลิกภาพหรือทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ สถานะทางสังคม
จะดูว่า ‘ทำไม’ ลูกค้าถึงซื้อสินค้า นักจิตวิทยาเชื่อว่าทุกคนใช้อารมณ์ในการสนับสนุนการตัดสินใจเสมอ เพราะฉะนั้นนิสัยและอารมณ์จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการแบ่งกลุ่มลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าที่ซื้อเพราะอยากมีไลฟ์สไตล์ที่ดีขึ้น ซื้อเพราะเป็นงานอดิเรก ซื้อเพราะความจำเป็น ซื้อเพื่อลดความเสี่ยง เป็นต้น วิธีเก็บข้อมูลทางจิตวิทยาทำได้ผ่านการสัมภาษณ์ลูกค้าและการทำแบบสอบถาม ยกตัวอย่างก็คือการที่ Facebook สามารถเก็บข้อมูลพวกนี้ได้ผ่านทาง Like ที่เรากดในเพจต่างๆ
เพราะ ผู้คนมีความซับซ้อนมากกว่าที่จะใช้แค่การแบ่งกลุ่มทางประชากร คนขายสินค้าควรต้องรู้สิ่งที่พวกเขาสนใจ งานอดิเรก นิสัยทางสังคมมุมมองทางการเมือง ความเชื่อทางศาสนา และความชอบภายใน ที่ละเอียดอ่อนทำให้ “การแบ่งกลุ่มทางจิตวิทยา” เป็นสิ่งที่เราควรต้องรู้ ดูอย่างผลกระทบที่มีอิทธิพลมากที่สุดอย่างหนึ่งของ Facebook คือ การแบ่งกลุ่มทางจิตวิทยา และด้วยโซเชียลมีเดียวันนี้ ทำให้เราสามารถกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่มีความชอบและความสนใจเฉพาะเจาะจง
FROm :
People are much more complex than the demographic silos marketers would like to place them in. Interests, hobbies, social habits, political views, religious beliefs, and a host of subtle, internal preferences make “psychographics” a must-have for marketers. Perhaps one of the most influential effects of Facebook is the mainstreaming of psychographics. With social media, marketers can target users with very specific likes and interests. – Business 2 Community –
ด้วยการแบ่งกลุ่มตามหลักจิดวิทยาแบบนี้อาจสังเกตได้ไม่ง่ายเหมือนกับข้อมูลประชากร แต่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับแรงจูงใจความชอบและความต้องการของผู้ชมของคุณ การทำความเข้าใจผู้ชมในแง่มุมเหล่านี้จะช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่ดึงดูดใจพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างบางส่วนของลักษณะทางจิต ได้แก่ ลักษณะบุคลิกภาพความสนใจความเชื่อค่านิยมทัศนคติและวิถีชีวิต
เพราะ การแบ่งกลุ่มทางจิตวิทยา Psychographics ให้ข้อมูลเชิงลึกว่าเหตุใดผู้คนจึงตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าของเรา สนใจหรือไม่สนใจสิ่งที่เราสื่อสาร รวมทั้งทำไมจะโต้ตอบกับสิ่งเราสื่อสาร
Psychographics give your insight into why people decide to purchase or not purchase your product, click on or ignore your ad and otherwise interact with you.
4. Behavioral Segmentation – การแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรม คือ การวิเคาระห์ข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้า
FROm : Behavioral segmentation is used to gain insights into customer experience
พฤติกรรมของลูกค้าจะบอกได้ว่าลูกค้าซื้อของยังไง และซื้อของเมื่อไร เว็บขายของออนไลน์ส่วนมากจะเก็บข้อมูลพวกนี้ไว้ได้เยอะและสามารถแบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นหมวดต่างๆตาม ‘มูลค่าสินค้าที่ซื้อ’ ‘จำนวนครั้งที่ซื้อ’ หรือแม้แต่ ‘จำนวนสินค้าที่ซื้อ’ เป็นต้น
เพราะ “การรู้ว่าลูกค้าของคุณเป็นใครนั้นยอดเยี่ยม แต่การรู้ว่าพวกเขามีพฤติกรรมอย่างไรจะดีกว่า”
Knowing who your customers are is great, but knowing how they behave is even better. – Jon Miller –
การแบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมจะเจาะลึกถึงนิสัยของลูกค้ามากกว่า การแบ่งกลุ่มตามข้อมูลประชากร นอกจากนี้ยังสามารถทำเป็นโปรไฟล์ของลูกค้าที่จะนำไปใช้ในการวางแผนการตลาด
FROm : Behavioral segmentation digs deeper into customer habits than demographic segmentation. It’s also one of the most popular customer profile types to be integrated into a marketing plan.
ตัวอย่างตัวแปรในการแบ่งส่วนทางพฤติกรรม :
แสวงหาประโยชน์จากผลิตภัณฑ์หรือบริการ ความพร้อมในการซื้อ การแบ่งกลุ่มตามการใช้งาน
เช่นเดียวกับ Psychographics กลุ่มพฤติกรรมจะถูกรวบรวมโดยอิงตามรอยทางดิจิทัลของผู้บริโภคเป็นหลัก การปรับปรุงใหม่ในเทคโนโลยีรวบรวมข้อมูลเมตาจากลูกค้าเพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
พฤติกรรมบางประเภทที่ต้องดู ได้แก่ :
_ Online shopping habits พฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ ควรจะถูกนำมาวิเคราะห์ เนื่องจากอาจมีความสัมพันธ์กับความเป็นไปได้ที่จะทำการซื้อทางออนไลน์บนเว็บไซต์ หรือเพจของเรา
_ Actions taken on a website/ Page วิธีการใช้งานบนเว็บไซต์ฝ เพจ ติดตามการ้งานที่ผู้ใช้ทำสื่อออนไลน์ของเรา เพื่อทำความเข้าใจวิธีที่พวกเขาโต้ตอบได้ดีขึ้น คุณอาจดูว่ามีคนอยู่บนไซต์ของคุณนานแค่ไหนไม่ว่าพวกเขาจะอ่านบทความจนจบ หรือประเภทของเนื้อหาที่พวกเขาคลิกและอื่น ๆ
_ Benefits sought คุณประโยชน์ที่ต้องการ หมายถึงความต้องการที่ลูกค้าพยายามตอบสนองโดยการซื้อผลิตภัณฑ์
_ Usage rate อัตราการใช้งาน อาจจะจัดหมวดหมู่ผู้ใช้ตามอัตราการใช้งาน ข้อความของคุณจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าใครบางคนเป็นผู้ใช้หนักผู้ใช้ขนาดกลางผู้ใช้งานเบาหรือไม่ใช่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณ
_ Loyalty ความภักดี หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ไประยะหนึ่งลูกค้ามักเกิดความภักดีต่อตราสินค้า คุณสามารถจัดหมวดหมู่ลูกค้าตามความภักดีต่อแบรนด์ของคุณและปรับแต่งข้อความของคุณให้เหมาะสม
ข้อมูลพฤติกรรมมีประโยชน์เนื่องจากเกี่ยวข้องโดยตรงกับการที่ใครบางคนโต้ตอบกับแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ของคุณ ด้วยเหตุนี้จึงสามารถช่วยให้คุณทำการตลาดกับพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คุณสามารถรวบรวมข้อมูลนี้ผ่านแหล่งต่างๆรวมถึงคุกกี้ที่อยู่บนเว็บไซต์ของคุณข้อมูลการซื้อในซอฟต์แวร์การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และชุดข้อมูลของบุคคลที่สาม
สุดท้าย
“ทุกวันนี้การแบ่งกลุ่มไม่ใช่เทคนิคทางการตลาดที่เรียบง่ายหรือคงที่อีกต่อไป เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของ บริษัท ที่ประสบความสำเร็จ”
Today, segmentation is no longer a simple, or static, marketing technique; it is core to the way successful companies run their business. – IBM Institute for Business Value
การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย “Segmentation” เพื่อหาว่าคนกลุ่มนี้ชอบการสื่อสารแบบไหน วิธีไหน เพื่อสร้างโอกาสในการนำเสนอขายสินค้าของคุณต่อไป และคุยเรื่องที่คนอยากรู้ กับคนที่ใช่ ย่อมดีกว่าคุยเรื่องอะไรไม่รู้กับคนไปทั่ว
คุณสามารถกำหนดกลุ่มตามคุณสมบัติที่เข้ากับกับสินค้าของคุณ และการแบ่งกลุ่มด้วยวิธีนี้ช่วยให้สามารถทำการตลาดได้ตรงเป้าหมายและมีเนื้อหาที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น
เล่าเรื่อง. ทำให้เป็นจริง ทำให้น่าสนใจ และทำให้เกี่ยวข้อง.
Tell a story. Make it true. Make it compelling. And make it relevant. – Rand Fishkin-
ต้องการคำปรึกษา หรือมีคำถาม ติดต่อที่ Comment, Messenger หรือ E-mail : 527may27@gmail.com ได้เลยนะคะ
#527 #brandnode #marketing #research #SME #brand #branding #consultant #knowledge #rebrand #marketing #consumerinsight #แบรนด์ #วิจัย #การตลาด #การสร้างธุรกิจ