จากสถานการณ์ในปัจจุบัน มีคนจำนวนมากที่เรียกว่าต้องดิ้นรนที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการสร้างรายได้ คงมีบางคนถามว่าทำอะไรขายได้ก็ขายไปเถอะ ไม่เห็นเกี่ยวกับแบรนด์เลย ซึ่งก็จริงสำหรับคนที่ต้องการแค่นั้น และส่วนใหญ่ก็ยังมีคำถามว่า แบรนด์คือ…มีโลโก้ ก็มีแบรนด์ ? สูตรสำเร็จนี้จะช่วยให้คนที่เป็นเจ้าของธุรกิจเริ่มต้นอย่างถูกทิศถูกทาง ใครที่กำลังจะสั่งให้ออกแบบโลโก้ทำสติกเกอร์ลองหยุดดูขั้นตอนการสร้างแบรนด์นี้ก่อน แล้วลองมาพิจารณาว่าควรทำอย่างไร
แต่ถ้าคุณมั่นใจว่าสินค้าของคุณไม่มีใครสามารถทำเลียนแบบ หรือคล้ายคลึงได้ คุณเป็นเจ้าของสินค้าที่เป็นหนึ่งเดียวในจักรวาล ทุกคนต้องการสินค้าคุณ คุณจะตั้งราคาอย่างไร คุณจะบอกอะไรทุกคนเชื่อหมด แบบนี้ คุณอาจจะมีแบรนด์ หรือไม่มีก็ได้
การสร้างแบรนด์ จะเป็นตัวช่วยในการก้าวเดินต่อไปอย่างมีทิศทาง
อย่างที่บอกถ้าคุณมีสินค้า “ทำแบรนด์ของคุณ ก่อนที่จะมีคนอื่นทำ“
Brand yourself before others do. – Anonymous-
แกนหลักใน การสร้างแบรนด์ใน 7 ขั้นตอน… สูตรสำเร็จฉบับเร่งรัด คือ “การกำหนดแบรนด์จากตัวเอง เพื่อที่จะเป็นแบรนด์ที่มีตัวตนชัดเจน”
คำเตือน §นื่คือการสร้างแบรนด์…แบรนด์ ไม่ใช่การสร้างตัวสินค้า (บริการ) ส่วนนี้จะไม่คำนึงถึงกระบวนการ หรือวิธีการผลิต” §ที่สำคัญเหมาะสำหรับคนที่รู้แล้วว่า สินค้า หรือบริการที่จะทำคืออะไร §ไม่ได้บอกนะคะว่าทำตามทุกขั้นตอนแล้วจะขายได้ หรือขายดี
การสร้างแบรนด์คือการเริ่มกิจการอย่างมีระบบ เพื่อที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน
“ถึงแม้ว่าคุณจะเริ่มต้นด้วยธุรกิจขนาดเล็กไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องคิดอะไรให้เล็กๆ – คิดให้ใหญ่! เริ่มจากจุดเล็กๆ! ขยายให้ใหญ่ขึ้น!”
QUOTe :
The fact that you have started a small business doesn’t mean you should be thinking small. Think BIG! Start Small! Expand your territories! – Bernard Kelvin Clive –”
มาทำความรู้จักกับ 7 ขั้นตอนในการสร้างแบรนด์นี้ให้เริ่มและทำให้เสร็จทีละข้อ แล้วคุณจะได้ผลลัพธ์เป็นแบรนด์ที่เป็นของคุณ
ขั้นที่ 1 รู้เขารู้เรา….เพื่อหาพื้นที่สำหรับตัวเรา
ในขั้นนี้อย่างแรกก่อนที่จะรู้อะไรต้องรู้ตัวเราก่อนนั่นคือ ต้องรู้จักสินค้าเราให้ดีก่อน สินค้าเราคืออะไร อยู่ในหมวดสินค้าแบบไหน แล้วลองอธิบายสินค้าเราให้คนรู้จักฝั่งว่าสินค้าเราเป็นอย่างไร
จากนั้นคุณลองหาดูว่าใครคือคู่แข่งคุณ ใครครองตลาดอยู่ หรือพูดง่ายๆศึกษาคู่แข่ง เรียนรู้สิ่งที่คนครองตลาดทำอยู่ อย่าลอกเลียนแบบ แต่ลองหาว่าพื้นที่ตรงไหนที่พอจะเป็นพื้นที่ของคุณได้
จากนั้นลองคาดเดาว่าลูกค้ากลุ่มแรกของคุณคือใคร ต้องการอะไร พฤติกรรมเป็นอย่างไร เตรียมการสื่อสารที่กลุ่มใช้และต้องการ สุดท้ายจะนำมาซึ่งยอดขายแรกๆได้
ขั้นที่ 2 เราจะเป็นใคร ท่าทาง พูดจา….. แบบไหน
แบรนด์ที่ดีจะต้องกำหนดได้ว่าแบรนด์เป็นใคร บุคลิกแบบไหน ให้มีเอกลักษณ์และชัดเจน เฉพาะตัว นั่นคือการกำหนดจุดเฉพาะ โดยจะเริ่มจากการกำหนดตำแหน่งทางการตลาดนั้นจริงๆแล้วทำได้ไม่ยากนักแต่ต้องทำให้ชัดเจน โดยการตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า
เราเสนอ / ขาย (สินค้าอะไร – ชื่อประเภทสินค้า) สำหรับ (กลุ่มลูกค้าที่คาดว่าจะซื้อหรือใช้บริการ) โดยกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นจะได้รับประโยชน์อย่างไรจากสินค้าของเราอย่างไร ซึ่ง แตกต่างจาก ผู้อื่น (คู่แข่ง / ตัวเปรียบเทียบ) เพราะ เรามี ความแตกต่างในเรื่องนี้อย่างชัดเจน
จากนั้นคุณจะเริ่มเห็นเอกลักษณ์ที่ชัดเจนของคุณ และค่อยมากำหนดภาพลักษณ์ – บุคลิกภาพ – ของแบรนด์ สินค้าที่มีแบรนด์ที่ชัดเจน ก็เหมือนกับคนที่มีบุคลิกภาพของตัวเอง ดังนั้นก็จะมีคนที่อยากจะรุ้จัก กับคนที่ไม่” บุคลิกของแบรนด์ชัดเจนอะไรก็จะชัดขึ้น
ลองนึกภาพว่าตัวตนแบบไหนกันที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เรากำหนดไว้จะให้ความสนใจ เช่น “อินดี้ ไม่รวดเร็วนัก มีโลกส่วนดัวสูง ช้าๆแต่ถึงที่หมาย คล้ายตัว สลอธ” นั่นคืออีกวิธีกำหนดบุคลิก เหมือนอุปมาอุปมัยไปกับสัตว์บางชนิด ซึ่งสุดท้ายอาจจะนำมาเป็นโลโก้ หรือชื่อแบรนด์ของคุณได้เช่นกัน
ขั้นที่ 3 : เราจะชื่ออะไร ชื่อนี้จะดี…อย่างไร
“ชื่อ” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของการตลาดที่สำคัญ อาจจะมีบางคนคิดว่า”ชื่อ” เป็นอะไรก็ได้แค่เพราะบางชื่อก็ดูไม่มีอะไรแต่ก็ดังได้ ขายของได้ แต่หากรู้ถึงผลลัพธ์ก็จะพบว่าการลงแรงคิด “ชื่อ” ให้ดีนั้นคุ้มค่าอย่างไร สำหรับชื่อที่ไม่ติดตลาดหรือไม่เหมาะสม วิธีเดียวที่จะทำได้คือ “เริ่มทำทุกขั้นตอนใหม่ตั้งแต่ต้น”
ขั้นที่ 4 : สี และตัวหนังสือที่จะเป็นเราคือ….
เพราะสีมีบทบาทสำคัญต่อการสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ลองดูได้จากธนาคาร ม่วงคือ เขียวคือ จะเห็นว่าสีเป็นตัวชี้นำที่ดีตัวนึงในการบอก อารมณ์ ของแบรนด์ที่คุณต้องการสื่อสาร และขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงอัตลักษณ์ตัวตนที่เป็นพื้นฐานของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน มีข้อควรรระวังข้อหนึ่งในการเลือกสีคือ หลีกเลี่ยงสีที่เป็นสีเดียวกันกับคู่แข่งของคุณ เพราะอาจจะสร้างความสับสนได้
การเลือกตัวหนังสือที่จะใช้ในการสื่อสาร โดยดูจากชื่อ ภาพลักษณ์ บุคลิกภาพ ซึ่งตัวหนังสือนี้จะปรากฏตามสื่อต่างๆ ดังนั้นควรเลือกใช้ฟอนต์ แค่ 1 – 2 แบบ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับผู้พบเห็น ไม่สับสน โดยอาจจะเลือกฟอนต์แบบที่ 1 เพื่อใช้ในหัวเรื่อง (Headline) และฟอนต์อีก 1 ในส่วนของเนื้อหา (Body Text) ในส่วนการเลือกแบบตัวหนังสือนี้จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับ Logo ก็ได้ – อาจจะใช้เอาไปประกอบในแง่อารมณ์เท่านั้น
ขั้นที่ 5 : สโลแกนที่จะพูดถึงตัวเราคืออะไรดี
สโลแกน มีความจำเป็นมากแค่ไหน ไม่สามารถบอกได้ แต่สโลแกนดีๆ เพียงแค่ประโยคสั้นๆประโยคเดียวนั้น อาจจะสามารถให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักและสร้างยอดขายได้มากมาย เพราะสโลแกนเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดสำคัญทางหนึ่ง เพราะ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการสื่อสารเรื่องราวของธุรกิจคุณ ไปสู่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อีกด้วย
ขั้นที่ 6 : โลโก้ที่แสดงตัวตนเรา ควรจะเป็นแบบไหน
เรียกขั้นนี้ว่าขั้นสุดท้ายก่อนที่จะให้ชาวโลกเห็นแบรนด์คุณ แต่ในขณะเดียวกันคนจำนวนมากก็เลือกทำโลโก้ก่อนที่จะทำขั้นตอนอื่นๆที่กล่าวมา คงจะพอเข้าใจกันบ้างว่าก่อนที่จะมาออกแบบโลโก้นั้นคุณควรต้องผ่านการกลั่นกรองมาเป็นอย่างดี เพื่อที่จะสร้างโลโก้ที่มีเอกลักษณ์ และสามารถบ่งบอกตัวจน
แทบจะกล่าวได้ว่าโลโก้เป็นสิ่งแรกที่น่าจะอยู่ในใจ หรือสามารถจำแบรนด์ต่างๆได้เป็นอย่างแรก ดังนั้นมันจึงเป็นเหตุผลที่ดีที่จะต้องใส่ใจในรูปแบบของโลโก้ …ปัจจุบันโลโก้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างแบรนด์ สร้างสินค้า และสร้างบริษัทสักแห่งหนึ่งให้เป็นที่รู้จักได้…
ขั้นที่ 7 : ใช้แบรนด์ในทุกๆสื่อ เดินหน้า สม่ำเสมอ อย่างมีนัยยะ
ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่เรากำลังจะประกาศให้โลกรู้ว่ามีแบรนด์เราโดยเฉพาะในกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ เราพร้อมที่จะบอกใครว่าเราเป็นใคร ดังนั้นนอกจากจะนำเสนอขายแต่สินค้าต้องอย่าลืมนำเสนอแบรนด์ที่เราสร้างมา บอกเรื่องแบรนด์ให้กลุ่มเป้าหมายในทุกๆสื่ออย่างสม่ำเสมอ ตามที่วางไว้เพื่อให้แบรนด์มีตัวตนในกลุ่มเป้าหมาย และอย่าลืมไม่หยุดที่จะเดินหน้าประกาศเพื่อเกิดการจดจำแบรนด์ในกลุ่มเป้าหมาย และเดินหน้าพัฒนาแบรนด์เพื่อให้เป็นไปตามภาพลักษณ์ที่ต้องการ เพราะแบรนด์ที่ดังได้ ไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน
Create Brand เพราะแบรนด์เป็นมากกว่า……….ชื่อ และโลโก้
โลโก้ เป็นเพียงส่วนเล็กๆของแบรนด์
สิ่งสำคัญคือ ต้องสร้างรากฐานของแบรนด์
การสร้างแบรนด์ให้มีตัวตน ก็คือศิลปะการทำให้คนอื่นอยากรู้จัก อยากคบหา
QUOTe :
“Branding is the art of becoming knowable, likable and trustable.” – John Jantsch –
ยุคนี้ต้องเรียกว่าต้องทำอะไรเร็ว คิดเร็ว ทำเร็ว ให้เห็นเร็วๆ เพราะจะโดนเลียนแบบได้อย่างเร็ว การสร้างแบรนด์จะเป็นทางออกทางหนึ่งที่ทำให้การลอกเลียนแบบเป็นไปไม่ได้ หรือเลียนแบบได้ไม่ทั้งหมด ถ้าสิ่งที่ทำมีเนื้อในเป็นแบรนด์จริงๆ
ต้องการคำปรึกษา หรือมีคำถาม ติดต่อที่ Comment , Messenger หรือ E-mail : 527may27@gmail.com ได้เลยนะคะ
#527 #brandnode #marketing #research #SME #brand #branding #consultant #knowledge #rebrand #marketing #consumerinsight #แบรนด์ #วิจัย #การตลาด #การสร้างธุรกิจ