เคยมีคำกล่าวเกี่ยวกับทฤษฎีการตลาดว่า “กลยุทธ์สมัยใหม่ที่มีในปัจจุบันนี้ จริงๆแล้วไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเพียงมุมมองใหม่ในกลยุทธ์เดิมที่เข้ากับปัจจุบัน”
FROm :
เช่นเดียวกับเรื่องส่วนผสมทางการตลาดเป็นเรื่องที่มีมายาวนานแล้ว จนมีข้อสงสัยว่ามันล้าสมัยไปยัง บางคนอ่านตรงนี้แล้วก็เลยพาลจะไม่อ่านบทความนี้ แต่ขอบอกเพิ่มเติมว่า ส่วนผสมการตลาดนี้ เป็นพื้นฐานที่สามารถนำไปพัฒนาใช้กับกลยุทธ์อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนการสร้างบ้านที่มีรากฐานที่ดีแต่อาจจะเป็นส่วนที่ไม่มีใครเห็น แต่ไม่มีบ้านก็อาจถล่มได้ เฉกเช่นแบรนด์ของคุณ ถ้าคุณยังไม่เข้าใจพื้นฐานการไปต่อของคุณก็อาจจะมีปัญหาได้
“วิธีหนึ่งที่จะทำให้แน่ใจว่าคุณมีแนวทางปฏิบัติที่ดีคือการทำการตลาดอยู่เสมอ โดยการจัดระบบส่วนผสมทางการตลาดของคุณให้สมดุล สุดท้ายการตลาดจะทำงานเป็นระบบที่ดำเนินไปได้เอง”
One of the ways to make sure you have a thriving practice is to always market. The best way to do that is to systematize your marketing mix, so it runs on autopilot.— Lisa A. Mininni
ก่อนที่จะเริ่มต่อไปเราคงต้องมาทำความรู้จักกับคำนี้ว่าคืออะไรกันแน่
(เอาแบบทฤษฎีกันก่อน) ส่วนผสมการตลาด – Marketing Mix คือ องค์ประกอบที่สำคัญในการดำเนินงานการตลาด เป็นปัจจัยที่กิจการสามารถควบคุมได้ ซึ่งส่วนผสมของการตลาดนี้จะมีอิทธิพลต่อการตอบสนองของผู้ซื้อ โดยจะมีตัวแปร 4 ตัว ที่จะช่วยให้ บริษัท พัฒนาจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ เฉกเช่น การใช้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ – Philip Kotler
FROm :
“(The) Marketing Mix is the set of controllable variables that the firm can use to influence the buyer’s response.” These four variables help a company develop a unique selling point as well as a brand image. – Philip Kotler –
ไม่ว่าธุรกิจจะเล็กจะใหญ่ การวางแผน หรือกำหนดแนวทางการทำการตลาด เป็นเรื่องสำคัญ การวางกลยุทธ์ส่วนผสมทางการตลาด ถือว่าเป็นศาสตร์และศิลป์ แต่ควรทำให้วัดผลได้ โดยดูจากยอดขาย กำไร ส่วนแบ่งทางการตลาด หรือ เป็นการสร้างแบรนด์ สร้าง engagement การมีส่วนร่วมของลูกค้า ซึ่งปัจจุบัน ปัจจัยที่ต้องการทุกตัวสามารถวัดผลได้เกือบทางหมด
ส่วนผสมทางการตลาดมีประโยชน์อย่างไร
การใช้ส่วนประสมทางการตลาดจะส่งผลต่อการนำเสนอสินค้าให้กับผู้บริโภคสินค้า เพราะองค์ประกอบทั้งหมดของส่วนผสมทางการตลาดมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน ซึ่งถ้าเราเข้าใจเราสามารถจัดการกับธุรกิจเราได้อย่างถูกต้อง จนสามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้ และอีกนัยหนึ่งเราทำให้เราเห็นมุมมองของกลุ่มเป้าหมายเราว่าเค้าจะได้ประโยชน์อะไรจากเรา
สรุปง่ายๆ คือ ส่วนผสมทางการตลาดนี้มีเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสร้างแผนการตลาดที่เหมาะสมกับตลาด
มุมมองในการใช้ส่วนผสมการตลาดแบบง่ายๆ คือ
มุมมองที่ 1 คุณมีลูกค้า หรือเข้าใจกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษ – คุณรู้ว่าคนกลุ่มนี้ชอบอะไร อยากได้อะไร มีปัญหาอะไร – คุณสามารถใช้กลยุทธ์ 4 P’s ในการสร้างสินค้า ให้เหมาะสมกับคนกลุ่มรู้จักนี้เป็นพิเศษได้
มุมมองที่ 2 คุณมีสินค้าอยู่แล้ว คุณก็ใช้กลยุทธ์ 4P’s โดยเฉพาะในส่วน Product ในการพัฒนาสินค้า อย่างไรก็ตามในมุมมองนี้คุณควรจะต้องมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ด้วย (ควรจะต้องรู้ว่า STP ของคุณคืออะไรก่อนแน่ ไม่งั้นคุณจะพลาด) เพื่อให้กลยุทธ์สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามการคิดแผนกลยุทธ์การตลาด เรื่องส่วนผสมการตลาด (4P’s) จะเป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องนำไปใช้กับกลยุทธ์อื่นๆ เพื่อพัฒนาแผนกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสม เช่น SWOT
ที่สำคัญเจ้าของแบรนด์ควรต้องระลึกไว้อยู่เสมอ คือ “การตลาดที่ยอดเยี่ยมไม่ได้เกิดขึ้นจากความโชคดีล้วนๆ”
FROm :
Great marketing doesn’t happen by pure luck. – toggl.com –
เพราะการตลาดที่ยอดเยี่ยมไม่ได้เกิดขึ้นจากความโชคดีล้วนๆ อาจฟังดูง่าย แต่การตลาดที่มีประสิทธิภาพต้องใช้การวิจัยและวางแผนเป็นจำนวนมาก การรวมองค์ประกอบที่เหมาะสมเข้าด้วยกันอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่การใช้กรอบการทำงานในเรื่องส่วนผสมทางการตลาดจะช่วยชี้นำทางให้เจ้าของแบรนด์ได้
แม้โลกจะเปลี่ยนไปหรือพฤติกรรมผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย 4Ps ก็ยังเป็นหลักการตลาดพื้นฐานที่สามารถนำไปต่อยอดแนวคิดทฤษฎีใหม่ๆ เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป
และส่วนผสมของการตลาด คือ “องค์ประกอบของตัวแปรที่ บริษัทต่างๆสามารถใช้เพื่อมีอิทธิพลต่อการตอบสนองของผู้บริโภค”
“A collection of variables that can be used by companies to influence consumer responses” -journal.ung.ac.id
ส่วนผสมทางการตลาด – Marketing Mix (4Ps) – ประกอบด้วย
4 องค์ประกอบพื้นฐาน จากโมเดลสุดคลาสสิคของ E. Jerome McCarthy โดยการวางกลยุทธ์ขององค์ประกอบทั้ง 4 ส่วนต้องมีความสอดคล้องเกื้อหนุนกัน และถูกออกแบบให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้ามากที่สุด แต่ละ P จะเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ธุรกิจดำเนินกิจการต่อไปได้ ประกอบไปด้วย
1. Product เป็นเรื่องสินค้า และบริการ
สินค้า หรือบริการ อาจจะเป็นสิ่งที่ “จับต้องได้” หรือ “จับต้องไม่ได้” ก็ได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนซื้อ หรือกลุ่มเป้าหมาย นั่นคือสินค้าที่ผลิตต้องตอบสนองความต้องการคนซื้อ ไม่ใช่ผลิตอะไรกได้ ดังคำที่ว่า “อย่าไล่ตามหาลูกค้าสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ ดีกว่าที่จะหาผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าต้องการ”
Don’t find the customers for your product, find products for your customers. – Seth Godin –
2. Price เป็นเรื่องของราคา
มีอาจมุมที่อาจจะชัดกว่าคือเป็นเรื่องของการ “จ่าย” เพื่อให้ได้ P ตัวแรก คือ Product มาครอบครอง – อาจจะมีบ้างที่ไม่ใช่เงิน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะผูกกับเรื่องเงินที่จ่ายคุ้มค้ากับสิ่งที่ได้รับ เพราะ
“การกำหนดราคาเป็นเรื่องของการค้นหาว่าลูกค้าจะให้มูลค่ายังไง
ส่วนการกำหนดราคานั้นจริงๆค่อนข้างง่าย … เพราะลูกค้าจะไม่จ่ายเงินมากกว่ามูลค่าที่แท้จริงของสินค้า”
Pricing is about finding customers valuations.
Pricing is actually pretty simple…Customers will not pay literally a penny more than the true value of the product.” -Ron Johnson –
3. Place เป็นเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย
เป็น P ที่มีการเปลี่ยนแปลงจากจุดเริ่มต้นมากมาย เพราะวันนี้ช่องทางการจัดจำหน่ายไม่ใช่แค่การหาสถานที่ตั้งร้าน หรือหาทำเลแบบเดิมๆ วันนี้เรามีหน้าร้าน Online ที่อาจจะกลายเป็นช่องทางหลักของบางธุรกิจไปแล้ว ดังนั้นอย่าปิดกั้นช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ และเมินช่องทางแบบเดิม ดังคำที่ว่า “ผลิตภัณฑ์ที่มีการกระจายสินค้าที่ดีกว่ามักจะได้รับชัยชนะเหนือผลิตภัณฑ์ที่เหนือกว่าด้วยการกระจายสินค้าที่ไม่ดีหรือการเข้าถึงลูกค้า มันไม่ยุติธรรม. มันไม่ถูกต้อง. แต่มันคือความจริง!”
A product with better distribution will always win over a superior product with poor distribution or customer access. It’s not fair. It’s not right. But it’s reality! – Stephen Davis –
4. Promotion เป็นเรื่องการส่งเสริมการขาย
ขอบอกว่า P ตัวนี้มีบางคนเข้าใจว่าคือการลด แลก แจก แถม เท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้ว Promotion ตัวนี้ คือการกระตุ้นให้ลูกค้าสนใจเรา ด้วยวิธีอะไรก็ได้ซึ่งวันนี้มีหลากหลายทั้ง Off line และ Online P ตัวนี้เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เกิดการซื้อขายได้ เพราะ ถ้าวันนี้คุณมีสินค้า แต่ “คุณไม่สามารถขายอะไรได้หากคุณไม่สามารถบอกอะไรได้”
You can’t sell anything if you can’t tell anything. – Beth Comstock
4P’s ที่ได้รับการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย ทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีการสร้างและดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จได้ ด้วยการใช้เครื่องมือนี้ความพยายามคือการสร้างความพึงพอใจให้กับทั้งลูกค้าและผู้ขาย เมื่อเข้าใจและใช้อย่างเหมาะสมส่วนผสมนี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของผลิตภัณฑ์
สุดท้าย “กลยุทธ์เรื่องส่วนผสมทางการตลาดจะช่วยรู้องค์ประกอบทางการตลาดเพื่อการวางตำแหน่งทางการตลาดให้ประสบความสำเร็จได้”
The marketing mix helps you define the marketing elements for successfully positioning your market offer.-mindtools.com –
อย่าลืมติดตามตอนต่อไปในการวิเคราะห์แต่ละ P – Product Price Place Promotion ว่าแต่ละ P จะต้องดูอะไรบ้าง และที่สำคัญจะวิเคราะห์อย่างไรให้ทันยุค ทันสมัย ทันเหตุการณ์
ต้องการคำปรึกษา หรือมีคำถาม ติดต่อที่ Comment, Messenger หรือ E-mail : 527may27@gmail.com ได้เลยนะคะ
#527 #brandnode #marketing #research #SME #brand #branding #consultant #knowledge #rebrand #marketing #consumerinsight #แบรนด์ #วิจัย #การตลาด #การสร้างธุรกิจ