![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/หัวเรื่อง-Text-1024x1015.jpg)
“รู้เรารู้เขา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
รู้เราแต่ไม่รู้เขา เจ้าจะชนะหนึ่งครั้งแพ้หนึ่งครั้งสลับกันไป
ไม่รู้เราไม่รู้เขา รบร้อยครั้งแพ้ร้อยครั้ง”
QUOTe :
“If you know the enemy and know yourself, you need not fear the results of a hundred battles.
If you know yourself, but not the enemy, for every victory gained, you will also suffer a defeat.
If you know neither the enemy nor yourself, you will succumb in every battle.” – Sun Tzu –
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/Quote-แนวนอน-1024x513.jpg)
ก่อนที่จะก้าวเดินต่อไปในการที่จะสร้างแบรนด์ ก้าวแรกที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง นั่นคือคุณต้องเข้าใจสถานการณ์พื้นฐาน ทั้งเรื่องสินค้าของตัวเอง ตลาดของสินค้าที่คุณจะทำ ว่าเป็นอย่างไร ใครจะซื้อ จะขายที่ไหนอย่างไร ดังนั้นถ้าเราจะขายของสิ่งที่คุณควรจะรู้พื้นฐาน คือ
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/หัวเรื่อง-แนวนอน-2-1024x505.jpg)
· Product is : สินค้าคุณคืออะไร หรือเรียกว่าเป็นอะไร โดยจะเน้นที่รูปลักษณ์ภายนอก หรือสิ่งที่สินค้าเป็น ที่จะทำให้เห็นภาพสินค้าได้
“ฉันจะขายเสื้อผ้า…ชุดทำงาน”
“ฉันจะขายเบเกอรี่…พวกขนมปังไส้เยอะ”
“ฉันจะขายไก่ทอด…ที่แสนอร่อย” อื่นอีกมากมาย
โดยเบื้องต้น สินค้าที่ดีคือสินค้าที่มีคนต้องการในวันนี้ และควรจะมีความต้องการในอนาคต ซึ่งคุณควรจะเข้าใจแนวโน้มความต้องการสินค้าด้วยก็จะยิ่งดี – TREND ช่วยเราได้ (จะได้ทำอะไรไม่ตกเทรนด์) เพราะ (TREND is) เทรนด์ คือ เรื่องราวที่… คาดว่าจะอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต และ “เลือกทำสินค้าที่มีคนต้องการ ย่อมดีกว่าทำสินค้าที่ต้องหาคนต้องการ”
QUOTe :
“Don’t find customers for your products, find products for your customers.” – Seth Godin –
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/Quote-Text-1-1020x1024.jpg)
– Describe your product : นอกเหนือจากแค่อะไร คุณจะอธิบายสินค้าของคุณอย่างไร เพื่อให้สินค้าของคุณมีตัวตนได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดังนั้นการคิดว่าว่าสินค้าแค่คืออะไรไม่พอ ต้องสามารถอธิบายได้ว่าสินค้าของคุณจะสนองความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างไร – คุณรู้ยังว่าสินค้าสามารถสนองความต้องการได้ถึง 3 ระดับ ยิ่งลึกยิ่งขาดไม่ได้ แล้วสินค้าคุณละสามารถสนองความต้องการได้ถึงระดับไหน
– ฉันจะขายเสื้อผ้า…ชุดทำงาน สไตล์ เกาหลี ตัดเย็บประณีต ใส่แล้วคุณจะดูเท่ห์ สวย ทันสมัย….. .”เสื้อผ้าของที่นี่ใส่แล้วจะดูรสนิยม มีระดับ”
– ฉันจะขายเบเกอรี่…พวกขนมปังไส้เยอะ ไส้แน่นทุกลูก มีหลากรสชาติ 7วันไม่ซ้ำ จุใจ จนต้องหยิบก้อนที่สอง “ขนมปังร้านเต็มปากเต็มคำ ฉลาดที่ได้กิน”
– ฉันจะขายไก่ทอด…ที่แสนอร่อย รสชาติเข้าเนื้อ นุ่มใน ชุ่มฉ่ำยันคำสุดท้าย ฟินตั้งแต่คำแรก จนหยุดฟินไม่ได้ “กินแล้วจะไม่ตกเทรนด์”
·Who’s BIG in this MARKET ใครคือจ้าวตลาด รวมทั้งใครละที่ทำคล้ายๆเราบ้าง หรือคู่แข่งเราคือใครบ้าง
“เรียนรู้จากคู่แข่ง ว่าเขาทำอะไร ทำอย่างไร แต่อย่าเลียนแบบ การเลียนแบบยังไงก็จะเป็นแค่ของเลียนแบบ”
QUOTe :
“You should learn from your competitor, but never copy -. Copy and you die.” – Jack Ma –
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/Quote-Text-2-1015x1024.jpg)
เวลาพูดถึงสินค้าประเภทเดียวกับคุณ หรือใกล้เคียง คุณจะนึกถึงใคร – แบรนด์อะไร สินค้าเค้าเหมือนกับคุณตรงไหนบ้าง และไม่เหมือนตรงไหน ในส่วนนี้ควรจะใช้หลักการในการเปรียบเทียบเพื่อที่จะหาช่องว่างในการตลาดที่คุณจะเข้าไปยืนอยู่ได้
การใช้หลักการพื้นฐานของ 4P’s หรือ 4C’s (ควรทำความรู้จัก 4P หรือ 4C ของการตลาดแบบง่ายๆ ว่าคืออะไร) มาตรวจดูคู่แข่งเพื่อเปรียบเทียบ และจะนำมาซึ่งความแตกต่างหรือจุดเด่นของสินค้าตัวเองได้ทางนึง
·The FIRST CUSTOMER is – ลูกค้าคนแรกๆที่ซื้อสินค้าคือใคร จริงๆแล้วก็คือการหากลุ่มเป้าหมายของคุณนั่นเอง โดยให้จัดกลุ่มจากลูกค้ากลุ่มแรกที่คุณคิดว่าจะซื้อสินค้าคุณ และคนไหนซื้อซ้ำบ้างหาความเหมือนของคนกลุ่มนั้น นั่นแหละคนที่ชื่นชอบคุณ
My target is : หากลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนของคุณ ส่วนมากแล้วเราไม่ค่อยมั่นใจว่าใครกันแน่ที่จะต้องการสินค้าเรา เรามักจะคิดกันว่า “ใครก็ได้” แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าไม่มีสินค้าอะไรที่ทำให้ทุกคนชื่นชอบได้เท่าๆกัน จำให้ดีว่ากลุ่มเป้าหมาย “ใครก็ได้ – ไม่ได้”
ดังนั้นคุณต้องกลับมาคิดว่า ใครคือคนที่จะชื่นชอบ สินค้าของคุณ หรือคุณคิดว่าจะดีสำหรับใคร การกำหนดกลุ่มเป้าหมายทำได้หลายวิธี
Demographic เช่น เพศ อายุ อาชีพ รายได้ สถานภาพ
Geographic เช่น ระยะทาง เขต จังหวัด ภาค
Psychographic เช่น บุคลิกภาพ ทัศนคติ ไลฟ์สไตล์
Behavioral เช่น ความถี่ ประสบการณ์ ผลประโยชน์
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/Story1-1-1024x1022.jpg)
ถ้าคุณขาย ขายเสื้อผ้า…ชุดทำงาน สไตล์ เกาหลี ตัดเย็บประณีต ใส่แล้วคุณจะดูเท่ห์ สวย ทันสมัย………. เสื้อผ้าของที่นี่ใส่แล้วจะดูรสนิยม มีระดับ” แล้วคุณใช้หลักการนี้ในการกำหนดเป้าหมายก็จะเป็น
หลักการพื้นฐาน – ผู้หญิง อายุ 25 ปี จบปริญญาตรีขึ้นไป รายได้ 15,000 บาท อาชีพทำงานออฟฟิศ
กำหนดแนวทางพฤติกรรม – ชอบแต่งตัว ซื้อเสื้อผ้าบ่อย ชื่นชอบแฟชั่นสไตล์ต่างประเทศ ที่ดูทันสมัย เป็นคนยุคใหม่สื่อสารทางออนไลน์เป็นหลัก ชื่นชอบดาราต่างประเทศ – ไม่ซื้อเสื้อผ้าราคาแพงมาก เพราะซื้อบ่อย ชอบซื้อสินค้าตามแหล่งช้อปปิ้ง
แบบนี้คุณคิดว่านี่คือคำตอบที่ดีของกลุ่มเป้าหมายของคุณหรือไม่ ที่คุณจะทำให้คุณเข้าใจ เพื่อนำไปใช้สื่อสาร หรือพูดคุยกับคนกลุ่มนี้ได้หรือไม่
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/Vocab-2-1009x1024.jpg)
_ เพิ่มเติม ดูจากคู่แข่งของเราว่ากลุ่มเป้าหมายหลักของคู่แข่งคือใคร หรือใครที่ดูเหมือนจะซื้อสินค้าคู่แข่งมากที่สุด แล้วนำมาเปรียบเทียบกับกลุ่มเป้าหมายของคุณว่าคุณควรจะเลือกกลุ่มเป้าหมายแบบนี้หรือไม่อย่างไร
เมื่อคุณได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว เรียบเรียงข้อมูลของคุณให้เรียบร้อย และนี่จะเป็นข้อมูลพื้นฐานแบรนด์ที่คุณกำลังจะเป็น
อีกสักนิด อย่าเรียบเรียงข้อมูลในสมองต้องเขียนออกมาให้เป็นเรื่องราว ไม่ว่าความจำคุณจะดีแค่ไหนก็ตาม
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/Story2-1-1024x1024.jpg)
ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เราจะรู้ และเข้าใจสถานการณ์จริง การ “มโนขึ้นมา” จะเป็นสิ่งที่น่ากลัวในการที่จะได้มาซึ่งคำตอบในการที่จะดำเนินธุรกิจเป็นอย่างมาก ดังนั้นควรมีการจัดระบบในการจัดหาข้อมูล การวิเคราะห์ เพื่อหาเหตุและผล เรียกว่าหา “Why behind What” แล้วคุณจะได้มั่นใจในข้อมูลที่จะใช้ตัดสินในการกำหนดทิศทางในการดำเนินธุรกิจของคุณ เรียนรู้การหาคำตอบ “Why behind What” ว่าคืออะไร
![](https://527talk.com/wp-content/uploads/2020/09/Story3-1024x1021.jpg)
ต้องการคำปรึกษา หรือมีคำถาม ดิดต่อที่ Comment หรือ Messenger ได้เลยนะคะ
#527 #brandnode #marketing #research #SME #brand #branding #consultant #knowledge #rebrand #marketing #consumerinsight #แบรนด์ #วิจัย #การตลาด #การสร้างธุรกิจ